อาการแพ้ยา อาหารเสริมชาย มีอะไรบ้าง
11 มกราคม 2564, 07:50 น.มีหลายคนที่ต้องประสบกับปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ จนกลายเป็นปัญหาในชีวิตคู่ จนทำให้ต้องหันมาใช้ยาต่าง ๆ เพื่อช่วยในการรักษา รวมไปถึงยายอดฮิตอย่างไวอากร้าด้วย แต่ก็ยังมีบางคนที่ยังไม่มั่นใจในการใช้ เพราะกลัวว่าจะมีผลข้างเคียง หรือมีอาการแพ้ยาได้ และยังไม่เข้าใจถึงอาการแพ้ยาชนิดนี้ด้วยว่า สามารถเกิดขึ้นได้อย่างไร อาการแพ้ยา ไวอากร้า มีอะไรบ้าง ก่อนจะตัดสินใจกิน เรามารู้ในเรื่องนี้กันก่อนดีกว่า
ยาไวอากร้า กินแล้วแพ้ได้ด้วยจริงหรือ
อาจจะมีคนสงสัยว่า ยาไวอากร้านั้น สามารถแพ้เหมือนยาทั่ว ๆ ไปได้ด้วยหรือ ซึ่งความจริงก็คือ เราสามารถแพ้ยาไวอากร้าได้เช่นกัน เพราะยาทุกชนิดย่อมมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้กับคนบางคน ที่อาจมีปฏิกิริยาต่อยาชนิดนั้น ๆ เช่น คนที่มีภูมิต้านทานต่ำ หรือมีประวัติแพ้ยาอื่น ๆ มาก่อน หรือร่างกายไม่ตอบสนองต่อยานั้น ๆ เป็นต้น ทำให้ร่างกายเกิดอาการแพ้ยาได้ และเมื่อเรามี อาการแพ้ยา ไวอากร้า แล้วนั้น ก็จะต้องหยุดใช้ทันที เช่นเดียวกันกับยาปฏิชีวนะทั่วไป
อาการแพ้ยา ไวอากร้า มีอะไรบ้าง
คนที่มีแพ้ยาไวอากร้านั้น อาจจะพบได้ไม่มากนัก ถ้าเทียบกับการแพ้ยาทั่ว ๆ ไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย เพราะหากมีโรคประจำตัวบางอย่าง หรือมีอาการแพ้ยาอื่น ๆ มาก่อน ก็สามารถที่จะแพ้ยาไวอากร้าได้เช่นกัน รวมไปถึงคนที่ใช้ยาไวอากร้าเกินขนาด ก็ย่อมส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายได้ จนทำให้เกิดอาการแพ้ยาได้ในที่สุด ซึ่งอาการของคนที่แพ้ยาไวอากร้านั้น มีดังนี้
1. ปวดหัว เป็นไข้ ตัวร้อน
เนื่องจากตัวยาจะไปขยายหลอดเลือดฝอยที่สมองของเรา ทำให้เนื้อสมองถูกเบียด จึงเกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรงได้ และอาจมีอาการอาเจียนด้วย คล้ายกับคนที่มีอาการทางสมองจากการได้รับอุบัติเหตุ รวมถึงในบางคนอาจมีการหนาวสั่น เป็นไข้ตัวร้อน หายใจลำบาก และอ่อนเพลีย ร่วมด้วย
2. หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ
อาการแพ้ยา ไวอากร้า แบบนี้ เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้มากที่สุด และมักเกิดจากการทานยาไวอากร้าในปริมาณที่มากเกินไป และเมื่อร่างกายเราได้รับยาไวอากร้าในปริมาณมาก สมองจะสั่งการและทำปฏิกิริยาต่อต้าน ทำให้เรามีอาการวิงเวียนศีรษะได้ ซึ่งหากมีอาการนี้ ควรรีบพบแพทย์และทำการรักษาโดยด่วน และควรต้องหยุดยาไวอากร้าด้วยเช่นกัน
3. ตาพร่ามัว เห็นภาพเป็นสีฟ้า
หากมีการทานยาไวอากร้าเข้าไป แล้วมีอาการสายตาพร่ามัว หรือมองเห็นภาพเป็นสีฟ้า นั่นแปลว่าคุณเสี่ยงกับอันตรายต่อดวงตา อาจมาจากการที่ทานยาไวอากร้าในปริมาณที่มากเกินไป เพราะไวอากร้าจะไปขยายหลอดเลือดที่เรติน่าในจอประสาทตา ทำให้เรามองเห็นสิ่งต่าง ๆ เป็นสีฟ้า หรือสีตามเม็ดยานั่นเอง และหากอาการไม่หายไปเองภายใน 2-3 ชั่วโมง ถือว่าเป็นอันตราย รวมถึงอาจมีอาการตาพร่ามัวอีกด้วย เพราะฉะนั้น หากมีอาการเหล่านี้ จะต้องรีบรับการรักษาในทันที เพราะอาจเกิดปัญหารุนแรงกับดวงตาได้ เช่น หากทานยาไปนาน ๆ แล้วมีอาการกับดวงตาแต่ไม่รักษา อาจทำให้เราตาบอดสีแบบถาวรได้
4. หูอื้อ อาการแพ้แบบนี้ไม่ได้เกิดบ่อยนัก แต่หากใครมีอาการแบบนี้หลังจากที่ทานยาไวอากร้าเข้าไป แสดงว่าร่างกายกำลังส่งสัญญานอันตราย เพราะนั่นหมายถึง คุณอาจแพ้ยาจากการที่ได้รับยาไวอากร้าในปริมาณที่มากจนเกินไป ถึงส่งผลให้หูอื้อได้ หากอาการไม่หายไปใน 2-3 ชั่วโมง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
5. หัวใจเต้นเร็ว ผิดจังหวะ
หากทานยาไวอากร้าเกินปริมาณ ย่อมส่งผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นเร็วและเต้นผิดจังหวะ เพราะไวอากร้าจะทำให้เกิดอาการใจสั่นได้ เนื่องจากหลอดเลือดหัวใจมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงไม่เหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคความดัน หรือโรคหัวใจ เพราะยาที่กินเพื่อรักษาโรคนี้นั้น จะไปมีปฏิกิริยาให้ยาไวอากร้าออกฤทธิ์เร็วขึ้น อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว หรือหัวใจวายเฉียบพลันได้
6. อวัยวะเพศแข็งตัวนานเกินไป
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นข้อดีที่ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวนานขึ้น เพื่อที่จะได้ทำกิจกรรมทางเพศได้นาน แต่แท้จริงแล้ว หากทานไวอากร้าเข้าไป แล้วอวัยวะเพศแข็งตัวติดต่อนานเกินกว่า 4 ชั่วโมง นั่นแสดงว่าร่างกายกำลังมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น และเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ เพราะในบางคนเมื่อทานไวอากร้าเข้าไปแล้ว แต่อวัยวะเพศไม่ยอมอ่อนตัวลงแม้จะเสร็จจากกิจกรรมแล้วก็ตาม นั่นเป็นเพราะว่า สารไซคลิกจีเอ็มพี ที่ร่างกายได้รับจากการกระตุ้นด้วยไวอากร้านั้น ทำให้หลอดเลือดบริเวณอวัยวะเพศขยายตัว จึงสร้างความเจ็บปวดได้ ดังนั้น จึงควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพราะไม่เช่นนั้น อาการแข็งตัวที่นานเกินไป อาจส่งผลทำลายอวัยวะเพศของคุณให้ไม่สามารถแข็งตัวได้อีกแบบถาวร โดย อาการแพ้ยา ไวอากร้า นี้ มักจะเกิดในผู้ชายที่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศไปแล้ว
7. อาการแพ้อื่น ๆ
นอกไปจากอาการหลัก ๆ ดังที่กล่าวไปแล้วนั้น อาการแพ้ยาไวอากร้ายังอาจพบอาการอื่น ๆ ได้อีก เช่น ปัสสาวะติดขัด ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น เป็นต้น
ข้อห้าม หรือข้อควรรู้อื่น ๆ ในการใช้ยาไวอากร้า
1. ยาไวอากร้านั้น ไม่ใช่ยาปลุกเซ็กส์ เพราะตัวยาในไวอากร้านั้น จะไม่ทำงานถ้าไม่มีการถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้า หรือถูกเล้าโลม จึงทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเมื่อเราทานยาไวอากร้าเข้าไป อวัยวะเพศเราจะแข็งตัวได้ทันที ซึ่งก็เป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะตัวยาจะต้องผ่านการถูกกระตุ้นจากสมอง แล้วถึงถูกส่งมายังอวัยวะเพศของเราอีกที ถึงจะมีการตื่นตัวและแข็งขึ้นได้
2. การใช้ยาไวอากร้านั้น นอกจากจะมีอาการแพ้ต่าง ๆ ดังที่กล่าวไป ยังมีข้อห้ามใช้ คือ ห้ามทานร่วมกับยารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด เพราะอาจเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ เนื่องจากตัวยาในยารักษาโรคนั้น จะไปเสริมฤทธิ์ของตัวยาในไวอากร้า ทำให้เราได้รับยาในปริมาณที่เกินหลายเท่าตั้ว จึงส่งผลให้มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ดังที่เราจะเห็นในข่าวอยู่บ่อย ๆ นั่นเอง
3. แม้ว่ายาไวอากร้าจะได้รับความนิยม เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศให้กับผู้ชายได้นั้น แต่หากมีอาการแพ้ต่าง ๆ เกิดขึ้น ต้องหยุดใช้ยาและพบแพทย์ในทันที
จาก อาการแพ้ยา ไวอากร้า ดังกล่าว เป็นอาการที่อาจพบได้ในบางคนเท่านั้น และมักเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะ แต่หากเมื่อมีอาการแล้วไม่เข้ารับการรักษา หรือพบแพทย์โดยด่วน อาจทำให้อาการแพ้ที่เกิดขึ้นนั้น กลายเป็นปัญหาเรื้อรังและยืดยาว จนส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ เพราะฉะนั้น ก่อนจะใช้ควรหาความรู้ให้ละเอียด และเลือกใช้ยาให้เหมาะสม รวมทั้งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ซึ่งปัญหาของสมรรถภาพทางเพศนั้น ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่และเป็นปัญหาในชีวิตคู่ที่ไม่ควรมองข้าม แต่เราสามารถหาวิธีในการรักษาได้หลายวิธี เช่น ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยต่อตนเอง เพราะเราอาจจะมีภูมิต้านทานที่ต่ำเกินไป หรือมีโรคประจำตัว ที่ไม่ควรใช้ยาไวอากร้าก็ได้เช่นกัน
อีกวิธีในการแก้ปัญหาสมรรถภาพทางเพศเบื้องต้น ที่ทุกคนสามารถทำได้โดยไม่มีอาการแพ้หรือผลข้างเคียง และยังปลอดภัยต่อสุขภาพ นั่นก็คือ ออกกำลังกายเป็นประจำ และเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ หรืออาจจะลองทานอาหารเสริมที่เป็นสมุนไพร ที่มีส่วนผสมของพืชที่ช่วยในการรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศก็ได้ แต่หากว่ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้ยาไวอากร้า ก็ขอให้ใช้อย่างระมัดระวัง และอย่าใช้ยาในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะนอกจากไม่เป็นผลดีแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพทางเพศในระยะยาวได้อีกด้วย